


ประวัติโรงเรียน

โรงเรียนแห่งนี้ก่อตั้งโดยผู้วิเศษสี่คน หนึ่งคือสายเลือดแห่งสัตว์หิมพานต์ชั้นสูง สองคือสายเลือดผสม สามคือผู้กำเนิดจากมานพ และสี่คือสายเลือดผู้วิเศษอันบริสุทธิ์ พวกเขาคือสายเลือดของผู้วิเศษที่ยังเหลือรอดมาจากยุคสงครามผู้วิเศษครั้งที่หนึ่ง บรรพบุรุษของพวกเขาออกเดินทางตามหาสถานที่ที่เหมาะสมนานแสนนาน จนสืบต่อมาถึงรุ่นของพวกเขา
พวกเขาได้ค้นพบเกาะลึบลับในน่านน้ำจันทบุรี...เกาะที่มีประตูทางเชื่อมสู่ป่าหิมพานต์ในพงไพรอันมืดทมิฬ ก่อนจะเจรจากับจิตวิญญาณแห่งพงไพรขอพื้นที่ส่วนหนึ่งสำหรับโรงเรียนผู้วิเศษ สถานที่อันปลอดภัยจากพวกมานพ สถานที่ที่บ่มเพาะให้ผู้วิเศษเติบโตมาเป็นจอมมนตราที่แกร่งกล้า

จุดเริ่มต้นที่บางกอก
ในปีพุทธศักราชที่ ๒๓๐๐ ชุมชนผู้วิเศษเล็กๆในบางกอกนั้นเป็นสถานที่ที่สี่ผู้ก่อตั้งราชนฤเคนทร์เวทยาลัยได้พบกัน ในครานั้นเริ่มจากการพบกันของกัมพลและพัชรา กัมพลเป็นผู้วิเศษหนุ่มสายเลือดผสมที่ได้รับการถ่ายทอดความรู้ในด้านมนตรามาจากมารดา สายเลือดฝั่งผู้วิเศษของกัมพลนั้นเป็นส่วนน้อยที่เหลือรอดจากสงครามผู้วิเศษครั้งที่หนึ่ง บิดาของกัมพลเป็นมานพ ครอบครั้วของเขาเป็นครอบครัวพ่อค้าที่ร่ำรวย แต่แล้วโชคชะตาก็ได้นำพาให้กัมพลได้พบกับเด็กสาวผู้มีมนตราทั้งที่ถือกำเนิดในตระกูลมานพ ธิดาลับๆของขุนสุเรนทรกับหญิงจากเมืองพิษณุโลก นามพัชรา
พัชราได้ปกปิดความสามารถของตนไว้ด้วยหวาดเกรงว่าตนจะเป็นตัวประหลาด ยิ่งมิใช่บุตรสาวจากภริยาเอกก็แย่พอแล้ว ครั้งที่เธอได้หนีออกมาเที่ยวในย่านบางกอกทำให้ทั้งสองได้พบกัน พัชราได้เห็นกัมพลแอบเสกให้ดอกไม้บานอย่างพอดิบพอดี แต่แรกนั้นบุตรชายตระกูลพ่อค้าตกใจเป็นอย่างมาก แต่กลับกลายเป็นความประหลาดใจระคนยินดีที่ได้พบผู้วิเศษนอกจากตนกับมารดาเข้าแล้ว
กัมพลรีบนำความไปบอกมารดาทันใด สิปาง มารดาของกัมพลจึงรีบส่งข่าวไปถึงสหายผู้วิเศษต่างเมืองของตนในทันใด เดือนถัดมา กาญจน์ บุตรีของหลวงวิชัยวรเวชและคุณหญิงแก้วเกล้าสหายรักของสิปางได้เดินทางมาถึงเนื่องมาด้วยคุณหญิงแก้วเกล้านั้นไม่อาจมาได้ด้วยตนเองเพราะป่วยเป็นโรคเรื้อรัง
สิปางจึบรีบเดินทางไปดูอาการสหายรักปล่อยให้กัมพล พัชราและกาญจน์ไม่อาจรู้ว่าต้องทำเช่นไรต่อ ในครานั้นดูเหมือนผู้ที่มีภูมิความรู้ในด้านมนตรามากที่สุดเห็นจะเป็นกัมพลเสียแล้ว
แต่แล้วโชคชะตากลับนำพาชายผู้หนึ่งให้เดินทางมาจนถึงร้านสินค้าของกัมพล นิลกาฬ...สายเลือดแห่งกัณหาโคตมะนาคราช ผู้มากไปด้วยภูมิความรู้ในศาสตร์แห่งมนตราไสยเวทหลายแขนง ผู้เดินทางจากล้านนามาถึงบางกอกจากนิมิตที่พบว่ามีการรวมตัวของผู้วิเศษในที่แห่งนี้ ศาสตร์ที่นิลกาฬเชี่ยวชาญที่สุดคือศาสตร์แห่งการทำนาย เขาได้กล่าวว่านิมิตที่เขาเห็นคือการค้นพบดินแดนใหม่
นิลกาฬคือผู้ที่มอบวิชาให้กับกัมพล พัชราและกาญจน์ จากพื้นฐานจนกลายเป็นผู้วิเสษที่เก่งกาจในเวลาเพียงไม่กี่ปี ในขณะนั้นกัมพลอายุย่างเข้า ๒๐ ส่วนพัชรและกาญจน์อายุได้ ๑๘ ปีพอดี นิลกาฬเห็นว่าเป็นเวลาอันสมควรแล้ว
หลังจากนั้น...ทั้งสี่ก็ได้หายไป…
ขุนสุเรนทรกังวลใจหนักหนาที่บุตรีหายตัวไปหากแต่ภริยาเอกกลับดีใจนักจึงมิได้ออกตามหาอย่างจริงจัง สิปางก็พบเพียงจดหมายลา ในยามนั้นเรือสำเภาของตระกูลพ่อค้าได้ออกแล่นไปในมหาสมุทรแล้ว
ในห้วงมหรรณพกว้างใหญ่ ตามคำทำนายของนิลกาฬ พวกเขาได้พบกับเกาะกลางมหาสมุทรที่มีเขตอาคมธรรมชาติอันน่าพิศวง การเจรจาขอเข้าไปสร้างสถานศึกษาเป็นไปด้วยดี มีการแบ่งปันพื้นที่ส่วนหนึ่งอันเป็นลานโล่งส่วนด้านหนึ่งของเกาะสำหรับการสร้างโรงเรียน
...นั่นคือจุดเริ่มต้นของโรงเรียนเวทมนตร์แห่งสยามประเทศ...

นามโรงเรียนและเรือนทั้งสี่
แต่แรกเริ่มที่แห่งนี้เป็นเพียงโรงเรียนเล็กๆที่ยังไม่มีชื่อ ไม่มีโรงเรียนประจำ เป็นเพียงเรือนไม้เล็กๆที่จุคนได้ไม่กี่คน มีผู้วิเศษจำนวนหนึ่งส่งบุตรหลานมาเรียนด้วยโดยมิได้หวังในสิ่งใดมากนัก แต่พวกเขากลับตื่นตะลึงกับผลที่ได้รับ
ด้วยความรอบรู้ของนิลกาฬและความพยายามอย่างหนักของผู้ก่อตั้งคนอื่นๆ เด็กผู้วิเศษล้วนเติบโตมาอย่างมากไปด้วยฝีมือ สามารถสอบเข้าทำงานในสภาผู้วิเศษได้อย่างไม่ยากเย็น อีกทั้งสำหรับผู้ที่จบการศึกษาด้วยคะแนนดีเยี่ยมยังได้รับใบอนุญาตและตราสัญลักษณ์สำหรับการเข้าออกป่าหิมพานต์จากสภาแม้จะไม่ได้เข้าทำงานกับทางสภาผู้วิเศษอีกด้วย
จากโรงเรียนเล็กๆที่ไม่มีแม้แต่ชื่อจึงเริ่มต้นกลายเป็นราชนฤเคนทร์เวทยาลัยอันนำแนวคิดมาจากสี่พญาราชสีห์แห่งหิมพานต์ มีบุคลากรครูเข้ามาสมัครฝึกสอน มีนักเรียนมากขึ้น จากเรือนไม้เล็กๆกลายเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่จนสี่ผู้ก่อตั้งต้องเจรจาขอขยายพื้นที่กับจิตวิญญาณแห่งพงไพร มีที่พักประจำสี่เรือนตั้งตามนามของผู้ก่อตั้ง และโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว มันได้ซึมซับนิสัยของพวกเขาเข้าไปด้วย
กัมพลนั้นเป็นบุรุษนักสู้ แต่แรกเริ่มที่โรงเรียนแห่งนี้นั้นยังไม่เป็นที่รู้จัก เขาคือผู้ปลุกใจให้ทุกคนพยายามต่อไป และไม่เคยที่จะทอดทิ้งมิตรสหาย นิลกาฬกลับมีนิสัยใจเย็น มากไปด้วยภูมิความรู้ดุจคมในฝัก สุขุมและมีความเป็นผู้ใหญ่กว่าใคร คือผู้ถ่ายทอดวิชาให้กับผู้ก่อตั้งคนอื่นทุกคน พัชราแม้จะเกิดจากมานพไร้ซึ่งภูมิความรู้ในเวทมนตร์แต่กลับอดทนไม่ย่อท้อ ฝึกฝนอย่างหนัก พยายามอย่างมากจนเก่งกาจไม่แพ้ใคร และกาญจน์เป็นผู้ที่มีความทะเยอทะยาน อยากจะพัฒนาตัวเองตลอดเวลา ไม่ชอบอยู่ใต้ใคร มีความเจ้าเล่ห์แสนกลแต่ก็มิใช่คนเลว
อันเป็นที่มาของนามแห่งเรือนทั้งสี่ รัตนกัมพล นิลกาฬ พัชรัตน์และกาญจนินทร์...

ราชนฤเคนทร์เวทยาลัยในปัจจุบัน
ด้วยความที่โรงเรียนแห่งนี้ตั้งอยู่บนเกาะพ้นจากสายตาของมานพ จึงเป็นที่ลี้ภัยสำหรับผู้วิเศษในยามสงคราม และยืนหยัดมาจนถึงปัจจุบันนับร้อยๆปี รูปของผู้ก่อตั้งทั้งสี่ยังคงติดอยู่บนฝาผนังห้องนั่งเล่นรวมของทุกๆบ้าน
สำหรับระบบการเรียนการสอนเป็นโรงเรียนประจำที่มีสื่อการสอนครบครัน มีการทัศนศึกษาที่ป่าหิมพานต์ปีละครั้งทุกชั้นปี และมีการฝึกงานสำหรับตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ขึ้นไป สำหรับนักเรียนที่มีคะแนนในระดับดีเยี่ยม หากประสงค์เข้าทำงานในกระทรวงเวทมนตร์ จะมีโควต้าเข้ารับทำงานโดยไม่ต้องสอบเข้า
ราชนฤเคนทร์เวทยาลัยขอต้อนรับนักเรียนทุกคน ขอให้ทุกคนนำความรู้ที่ได้รับไปใช้อย่างถูกต้อง...

